ตอนที่ 1
"นี่ ยายคนเกือบสวยเมื่อไหร่หล่อนจะแต่งตัวเสร็จ" เสียงแหว ๆ ดังมาจากเพื่อนสนิทที่นั่งรอ นางสาวยติ แต่งตัวไปเรียนเป็นเวลากว่าสองชั่วโมงแล้ว
"น่า พ่อคนเกือบหล่อ นายกินข้าวรอไปก่อน" ยติพยายามจัดแต่งทรงผมให้หายฟูฟ่องอย่างยากลำบาก
"ฉันบอกเธอกี่ทีล่ะยะ ว่าอย่าสระผมแล้วนอนเลย มันจะทำให้หัวฟูแล้วอาจเป็นหวัดอีก" ฤกษณะเดินมาช่วยทำผมให้ หวังว่าจะไม่สายตั้งแต่เช้าวันแรกที่ไปมหาวิทยาลัย
"โห ก็มันง่วงนี่น่า แต่จะไม่สระผมก็ไม่ไหวเหงื่อซกซะขนาดนั้น" เถียงกันไปมาอย่างนี้เป็นความสุขอย่างหนึ่งที่ยติหวังว่ามันจะมีอยู่ระหว่างที่เพื่อนสนิทยังไม่ออกเดินทาง
"เอ้า นั่งลง" ฤกษณะมีความสามารถด้านการทำผมมาตั้งแต่เด็ก ๆ อันน่าจะได้มาจากการที่ต้องมาทำผมให้เพื่อนหัวฟูคนนี้
เพื่อนเพียงคนเดียวที่ไม่รังเกียจฤกษณะที่ไม่ใช่ชายแท้ คอยปกป้อง คอยปลอบใจยามที่เพื่อนโดนพ่อไล่ออกจากบ้าน
"นายน่าจะเป็นช่างทำผมนะนี่ ทำไมเลือกสอบทุนแพทย์ล่ะ มีคนเสนอทุนด้านการทำผมให้ด้วยไม่ใช่เหรอ" ยติชวนคุยไปเรื่อยระหว่างรอ
"เหอะ ฉันไม่เลือกทำผมหรอกหาเงินยาก คนทำเยอะ ไม่รุ่ง"
"แหม เป็นแพทย์เงินดีนี่นะ"
"ไปได้แล้ว เดี๋ยวสาย" ฤกษณะเดินนำไปรอที่ประตู หากสายตายังคงจับจ้องเพื่อนคนสำคัญ
'ยายโง่เอ้ย ที่ฉันเลือกแพทย์น่ะก็เพื่อเธอนั่นแหละ ป่วยบ่อยซะจน....'
"ไปเถอะ กุญแจบ้านล่ะ" ยติถามก่อนล็อกประตู
"เอามาให้ล่ะ" ฤกษณะหย่อนกุญแจห้อยสัญลักษณ์ลัทธิวูดูลงกระเป๋าให้
( สัญลักษณ์ลัทธิวูดู ที่พ่อของยติทิ้งไว้ให้บนโต๊ะกินข้าวก่อนหายตัวไป)
"ไปไงดีล่ะ" ยติหันซ้ายหันขวาหารถเมย์สายที่จะผ่านมหาวิทยาลัย
"เดิน" คำตอบสั้น ๆ พร้อมทั้งคว้ากระเป๋ายติมาถือ แล้วเดินออกไปก่อน
"หา ฉันอุตส่าห์แต่งหน้าสวยเช้ง เดินไปก็เหงื่อท่วมตัวน่ะสิ" ยติต้องเดินกึ่งวิ่งให้ทันชายไม่แท้แต่หุ่นดีสุดๆ (ดีสมชายชาตรีมาก ๆ )
10 นาทีต่อมา
"ยายอืด เร็ว ๆ สิ" มันน่าอารมณ์เสียสุด ๆ มาเรียนวันแรกก็สายซะแล้ว เพราะยัยเพื่อนตัวดีนี่ทีเดียว
"โอ๊ย ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว" ยติก่อนออกจากห้องยังสวยเช้งมาบัดนี้ หน้าที่อุตส่าห์แต่งเป็นชั่วโมงเลือนออกเกือบหมดแล้ว
"เพราะเธอเองนะ ชักช้า" สำหรับกฤษณะแล้วมันเป็นความสุขอีกอย่างที่ได้หาเรื่องว่าเพื่อนตัวดีคนนี้สักเรื่องในหนึ่งวัน
"นายนี่นะ"
การได้ค้อนหรือทะเลาะกันเล็กน้อยเป็นการกระทำที่ไม่แสดงออกกับใคร เพราะกฤษณะนั้นเรียนเก่ง ความประพฤติดี เป็นสุภาพบุรุษ ไม่เคยแสดงออกถึงตัวตนที่แท้จริงต่อหน้าเพื่อนคนอื่น เพื่อการเอาชีวิตรอดในวัยที่ยังต้องพึ่งคนอื่นนี่ไงล่ะ
"ยติ ฉันมาส่งเธอแค่หน้าตึกที่เรียนนะ" กฤษณะยื่นกระเป๋าให้พร้อมกระดาษโน้ตแผ่นหนึ่ง
"ขอบใจ" ยติส่งยิ้มให้โดยไม่ทันสังเกตบางสิ่ง
"เย็นนี้ กลับเองนะ ฉันต้องทำงานให้เสร็จคงช้ามาก" กฤษณะเดินออกไปทางคณะตัวเองโดยไม่รอคำตอบ
"แหม จะฟังกันหน่อยก็ไม่ได้" ยติเดินขึ้นบันไดไปยังห้องเรียนและยัดกระดาษโน้ตลงไปในกระเป๋า
ผู้แต่ง...
เป็นไงบ้างคะ เพื่อนๆ ^-^
ถ้าคิดว่าก็งั้น ๆ มันก็ใช่อ่ะคะ ตอนแรก แถมเพิ่งเคยแต่งนี่นา
ยังไงก็ขอโทษด้วยถ้ามันไม่สนุก และสร้างความรำคาญให้
เอ้าาา
มาอ่านตอนที่ 2 กันเถอะ สนุกขึ้นแน่นอน
http://health-adoxy.blogspot.com/2009/11/2.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น